BLOGS

ฝ่าแสงสีที่ Las Vegas! พาเดิน Google Cloud Next’25 ฉบับเดินจริงไม่อิง AI

Thakorn.T • 21/04/2025
Google Cloud Solutions Specialist
Tangerine Cloud Next 25

สวัสดีครับทุกคน! เรื่องราวในวันนี้ทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะมาบอกเล่าเทคโนโลยีผ่านตัวอักษรน้อย ๆ นี้อีกครั้งจากประสบการณ์ที่ผมได้พบมาที่ Las Vegas เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยแสงสีและความสนุก! ผมและทีมงานได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน Google Cloud Next 25 ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาจนแทบหยุดหายใจ และอดไม่ได้ที่จะกลับมาเล่าให้ทุกท่านรู้สึกว่าเหมือนเดินไปด้วยกันกับผมครับ

จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่งาน Next 25

Google Cloud Next’25 ครั้งนี้เป็นอีกปีที่จัดที่ Las Vegas สหรัฐอเมริกาครับช่วงเวลาของานคือ 9–11 เมษายน 2025 แต่สำหรับพวกเรา Tangerine ถือว่าเป็น Premier Partner กับทาง Google เราจะเข้าไปในงานตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2025 ใน Exclusive Event ที่ผมจะเล่าให้ทุกท่านฟังและตื่นเต้นไปพร้อมกันครับ 😀

การเดินทางของพวกเราเริ่มต้นที่สุวรรณภูมิ พร้อมคณะแทนเจอรีนที่มาส่งถึงหน้า Gate จุดหมายปลายทางคือ Las Vegas ของเราต้องผ่านการ Transit จากกรุงเทพ ไปยังสนามบินเถาหยวนประเทศไต้หวัน มุ่งสู่สนามบินซานฟรานซิสโก ด้วย EVA Airline และไปลาสเวกัสด้วย United Airline

เมื่อถึงสนามบินลาสเวกัสก็พบกับจอขนาดใหญ่ที่ต้อนรับคนมาร่วมงาน สามารถไปรับป้ายคล้องคอได้ แต่เราคงใช้เวลาเดินทางนานเกินไป ค่ำคืนนี้จึงปิดรับบัตรเรียบร้อยครับ แต่ไม่เป็นไรครับ โรงแรมที่เราพัก Luxor Hotel นั้นก็มีจุดรับป้ายเช่นกัน เพราะโรงแรมเราเชื่อมต่อไปถึงสถานที่จัดงานคือ Mandalay Bay Convention Center เลยครับ

Next’25, Partner of The Year and Sphere Exclusive

เช้าวันนี้พวกเรามารับป้ายที่โรงแรมครับ ถือว่าคนยังไม่เยอะมาก เนื่องจากเป็นเวลาเช้าและเป็นวันก่อน Keynote ด้วย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเรากับพาสพอร์ตเป็นอันเสร็จสิ้นครับ

สำหรับพวกเรา Tangerine แล้ว ปี 2025 นี้เป็นปีที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเราได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Partner of The Year 2025 จาก Google Cloud ครับ! ซึ่งเราคือหนึ่งเดียวในไทยถึง 2 ปีซ้อน นี่เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความเชี่ยวชาญของทีมงาน Tangerine ในการนำเสนอโซลูชัน Google Cloud ที่มีคุณภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าของเราครับ

หลังจากงานรับรางวัล หนึ่งในประสบการณ์ที่น่าประทับใจมากๆ ในงานนี้คือโอกาสที่ Google จัดให้พาร์ทเนอร์ได้เข้าชม “The Wizard of Oz at The Sphere” ครับ

ผมเคยได้ยินชื่อเสียงของ Sphere ที่ Las Vegas มาบ้างว่าเป็นที่จัดคอนเสิร์ตระดับโลกที่เหมือนหลุดเข้าไปในมิติพิศวง แต่พอได้เข้าไปสัมผัสจริงๆ แล้วต้องบอกว่ามันคืออีกโลกหนึ่งเลยครับ จอภาพขนาดมหึมากว่า 160,000 ตารางฟุต และเทคโนโลยีเสียงที่สมจริง ทำให้การชมภาพยนตร์คลาสสิกเรื่องนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่ Immersive อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือเบื้องหลังความมหัศจรรย์นี้มีการนำ AI โดย Google DeepMind และ Google Cloud มาใช้ในการปรับปรุงภาพและขยายฉากต่างๆ คืนชีพ Wizard of Oz ให้เข้ากับสเกลของ Sphere ได้อย่างลงตัว ทีมงานได้ใช้โมเดลอย่าง Imagen และ Veo ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ รวมถึง Gemini ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์นี้ ผมรู้สึกได้เลยว่านี่คือการผสมผสานระหว่างศิลปะภาพยนตร์คลาสสิกและเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยอย่างแท้จริงเป็นการปิดจบวันแรกของพวกเราได้อย่างสมบูรณ์ครับ

Next’25 Opening Keynote

และแล้วก็ถึงวัน Opening Keynote วันนี้เป็นวันที่เราต้องเข้างานให้เร็วเป็นชั่วโมง เพื่อจับจองที่นั่งที่ดีที่สุดนั่นเองครับ ถ้าเราเข้าช้าหน่อยอาจเกิดภาวะ​ “คนติด” คล้ายๆ “รถติด” ที่ขยับไปไหนไม่ได้ครับ ลองเชิญชมบรรยากาศในการจับจองที่นั่งกันครับ

ในส่วนของ Keynote และ Sessions ต่างๆ ภายในงาน Google Cloud Next 25 นั้นก็เข้มข้นไม่แพ้กันครับ มีการประกาศผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ใหม่ๆ มากถึง 229 รายการ ครอบคลุมหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น AI และ Multi-Agent SystemsAI InfrastructureApplication DevelopmentComputeContainers & KubernetesDatabasesData AnalyticsSecurity และอื่นๆ อีกมากมาย

สิ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง AI ครับ ในงานนี้ Google ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ๆ ในตระกูล Gemini อย่างต่อเนื่อง เช่น Gemini 2.5 Pro ที่เน้นคุณภาพและความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และ Gemini 2.5 Flash ที่เน้นความรวดเร็วและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมีโมเดล Generative AI อื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น Imagen 3 สำหรับสร้างภาพคุณภาพสูง, Chirp 3 สำหรับสร้างและเข้าใจเสียง, Lyria สำหรับสร้างเพลงจากข้อความ และ Veo 2 สำหรับสร้างและแก้ไขวิดีโอ ซึ่งโมเดลเหล่านี้พร้อมใช้งานบน Vertex AI Model Garden ทำให้เราในฐานะ Data Cloud Engineer สามารถนำโมเดลเหล่านี้ไปพัฒนาต่อยอดโซลูชันให้กับลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบ

แต่ตัวที่ผมชอบจะเป็นตัว Instant Custom Voice กับ Transcription บน Chrip 3 คือเราสามารถใช้เสียงตัวเองใน Text-to-speech ได้แล้ว แต่ Google ก็จะมี Allow list ตรวจสอบก่อน คือไม่ใช่เสียงใครก็ได้ครับ แปลว่าอนาคตเราอาจจะเห็นมีการขาย “น้ำเสียง” กันมากขึ้น และ Transcription ก็คือตัว Chrip 3 สามารถแยกแยะได้ว่าใครพูดประโยคเหล่านี้จากน้ำเสียงครับ

อีกหนึ่งหัวข้อที่น่าจับตามองคือเรื่องของ Multi-Agent Systems ครับ Google ได้มีการเปิดตัว Agent Development Kit (ADK) ซึ่งเป็น Open-Source Framework ที่ช่วยให้การสร้างระบบ Multi-Agent ที่ซับซ้อนง่ายขึ้น รวมถึง Agent2Agent (A2A) protocol ซึ่งเป็นโปรโตคอลเปิดตัวแรกของ Hyperscaler ที่ช่วยให้ AI Agent สามารถสื่อสารกันได้ ซึ่งมี Agent ยักษ์ใหญ่หลากหลายเจ้า support แล้ว

ต่อไปเราก็ออกแบบ Agent ผ่าน ADK ได้โดยง่ายและคุยกันผ่าน MCP (Model Context Protocol) ที่ ADK จะรองรับ ซึ่งก็จะมีตัวอย่าง Agent ต่างๆ บน Vertex AI Agent Garden ไปลอง Explore ได้ครับ

นอกจากนี้ยังมี Agentspace ที่มีการพัฒนาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น การทำงานร่วมกับ Chrome Enterprise และ Agent Designer ที่เป็น No-Code Interface สำหรับสร้าง Agent ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถนำ AI Agent มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น

สาย Workspace ก็มีาน้องใหม่อย่าง Google Workspace Flows ที่ทำให้งาน automate workflow ง่ายขึ้น ผมมองว่าเหมือน make.com, zapier ที่ทำงานเป็น backend flow และใช้ง่ายแบบ drag & drop ไม่ต้องมานั่งเขียน Appscript แล้ว จัดว่า ว้าวๆๆๆ เลย ในมุมผมคิดว่าผู้ใช้ Workspace จะทำงานง่ายขึ้นมาก

ตัวอย่างเคสที่เป็นจุดเด่นของ Workspace Flow คือสร้างเงื่อนไขที่ค่อนข้างซับซ้อนด้วย Gemini ได้ อย่างเช่น ให้อ่านข้อมูลจาก Google Form ว่ามี compliant ลูกค้าเร่งด่วนที่ต้อง action หรือเปล่า ถ้าเร่งด่วนให้ส่งไปใน Google Chat Space กลุ่ม CX ไปเลย แล้วส่งเมล์แจ้งลูกค้าด้วย ซึ่งโดยปกติเราอาจจะต้องใช้ 3rd Party หรือ Appscript แต่ทั้งหมดจบใน Workspace Flow เก่งมากครับ

ในส่วนของ Data Analytics ก็มีการประกาศที่น่าสนใจมากมายครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาต่อยอดบน BigQuery ที่มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่าง BigQuery knowledge engine ที่ใช้ Gemini ในการวิเคราะห์ Schema และแนะนำ Business Glossary รวมถึง BigQuery semantic search ที่ช่วยให้การค้นหาข้อมูลเชิงลึกเป็นไปได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงในส่วนของ Looker ให้มีความสามารถด้าน Conversational Analytics ที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานทางธุรกิจสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

สำหรับ AI Infrastructure นั้น Google ก็ไม่น้อยหน้าครับ มีการเปิดตัว Ironwood TPUs ซึ่งเป็นชิป TPU เจนเนอเรชั่นที่ 7 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 10 เท่า รวมถึงการอัปเกรด AI Hypercomputer ให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำ Gemini ไปใช้งานบน On-Premise ผ่าน Google Distributed Cloud (GDC) ร่วมกับพาร์ทเนอร์อย่าง NVIDIA และ Dell ซึ่งจะช่วยให้องค์กรที่มีข้อจำกัดด้าน Regulatory สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล่าสุดได้

จริงๆ แล้วก่อนจบงานผมก็แอบลุ้นว่าจะมีโชว์ Gemini Robotics ใน Keynote ไหมนะครับ เพราะเห็นว่ากำลังวิจัยเอา Gemini มาอยู่ในโลกความเป็นจริง แต่ดูจนจบก็ไม่ได้มีน้องมาแสดง แต่ก็ไม่เป็นไรครับ มีลุ้นในงาน Google I/O อีกที 😛 สำหรับใครที่อยากรู้จักน้อง Gemini Robotics ก่อน ผมแปะวีดีโอนี้ให้ดูไปพลาง ๆ นะครับ

บรรยากาศในงาน Next’25

ในงานนอกจาก Session ต่าง ๆ ที่จองที่นั่งเข้าไปฟังแล้ว ยังมีพื้นที่จัดงาน Expo มีบู๊ทและผู้สนับสนุนต่างๆ รวมถึงกิจกรรมอย่างสอบ Cloud Skills Boost แล้วได้เข็มจริงๆ มี Developer Theater ที่มี speaker เป็น dev ขึ้นพูด ตรงนี้ผมว่ามีประโยชน์กับงานมาก ๆ ครับ

หลังจากจบ Keynote เรามุ่งหน้าไปฟัง Session ที่ห้อง Ballroom ต่าง ๆ แต่ก็พบปัญหา “คนติด” หนาแน่นมาก ทำให้เราไม่สามารถไปฟัง Session ได้ทัน ซึ่ง Session ในห้อง Ballroom ส่วนใหญ่จะมี Record ไว้ดูย้อนหลังอยู่แล้ว ดังนั้นสำหรับผู้เข้าร่วมงานแล้วผมคิดว่า เราควรไปฟัง Session ที่ไม่ได้มีอัดไว้ เช่นอยู่ใ่น Expo พวก Developer Theater ครับ และเดินชมบู๊ทต่างๆ หาความรู้จะดีกว่า

บริเวณกลาง Hall จะมีกิจกรรมเป็น Challenge ให้เล่น รวมถึงมี Quiz 6 หมวดใน Cloud Skills Boost ให้ไปนั่งทำเพื่อรับ Badge จริงๆ ที่เป็นเข็มด้วยครับ อันนี้ถือว่าเราได้ลับคมไม่ว่าจะเรื่อง Modernization, Data Defense, Automation Workflow, Data insight, Data Storage และ Scalability Application ผมก็ไปกวาดทุก Quiz เลย

ปัญหาถัดไปคือได้เข็มมาเยอะ แต่ไม่รู้จะไปติดอะไรนี่แหละครับ 😂 ระหว่างเดินผ่าน Developer Expert ที่ให้เราได้ปรึกษาได้ ก็เจอหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า Gen AI Intensive อ่านดูคร่าว ๆ แล้วดีมาก เลยถ่ายเก็บไว้เขียนโดย Google & Kaggle เผื่อมีโอกาสได้ครอบครองสักเล่มครับ

ในงานจะมี Showcase ต่างๆ รวมถึง Playground ให้เราเข้าไปร่วมเล่นหรือพูดคุยอย่างบู๊ท Gemini Playspace ลองเข้าไป Prompt Engineering กันครับ

ซุ้มนี้เป็นเรื่องราวของ Google Workspace 50 States, 50 Stories ข้างหน้าแอบมี Postcard ของแต่ละ States ให้เราเขียนเรื่องราวและหย่อนลงตู้จดหมาย น่ารักมากๆ ครับ

Showcase ของ AI Innovation จะมีโชว์ตัว Veo, Imagen และการ Grounding with Trust Data ซึ่งน่าจะอยู่ในกลุ่มเครื่องมือ Grounding for Enterprise ครับ ที่ Source Grounding จาก Google Search จะใช้ที่ Trust น่าเชื่อถือเท่านั้น

มีการ Deploy ตัว Gemini บน GDE เพื่อให้ Comply บาง Regulation ที่จำเป็น ส่วนใหญ่มักอยู่ในอุตสากรรมพวก Financial services ครับ แต่ถ้าองค์กรใดใช้ Cloud ได้อยู่แล้ว ผมว่าเราลดความซับซ้อนโดยใช้ Gemini ปกติครับ เพียงแต่หากมี Special Use Case แบบนี้ ทาง Google ก็มี Solutions ให้แน่นอนครับ

มีการ Deploy ตัว Gemini บน GDE เพื่อให้ Comply บาง Regulation ที่จำเป็น ส่วนใหญ่มักอยู่ในอุตสากรรมพวก Financial services ครับ แต่ถ้าองค์กรใดใช้ Cloud ได้อยู่แล้ว ผมว่าเราลดความซับซ้อนโดยใช้ Gemini ปกติครับ เพียงแต่หากมี Special Use Case แบบนี้ ทาง Google ก็มี Solutions ให้แน่นอนครับ

บู๊ททีน่าสนใจคือ AI Research in Action เพราะ R&D สำหรับงาน AI เป็นสิ่งที่จำเป็น นักวิจัยและนักพัฒนาของ Google ก็ทดลอง use case และพัฒนาใน lab ออกมาโชว์ ซึ่งก็มีหน้าที่พวกเราที่ต่อยอดความคิดเจ๋งๆ เหล่านี้ให้องค์กรของเราต่อครับ

บู๊ททีน่าสนใจคือ AI Research in Action เพราะ R&D สำหรับงาน AI เป็นสิ่งที่จำเป็น นักวิจัยและนักพัฒนาของ Google ก็ทดลอง use case และพัฒนาใน lab ออกมาโชว์ ซึ่งก็มีหน้าที่พวกเราที่ต่อยอดความคิดเจ๋งๆ เหล่านี้ให้องค์กรของเราต่อครับ

บ้างพูดถึงไอเดียการทำ AI Plan dinner อาหารเย็น หรือแม้กระทั่งใช้กับงานด้าน GIS

แอบไปยืนฟัง Developer Theater อยู่ครู่หนึ่งในหัวข้อ Churn Analysis using Google Gemini เลยเก็บ flow และ prompt structure มาฝากทุกท่านครับ

และอีกเรื่องคือการทำ Production Recommendation ด้วย Gemini ผมฟังไอเดียแกจบแล้วแอบ Follow ต่อเลย ความรู้แน่นผมช๊อบชอบ อย่างแกเสนอไอเดีย LLM Call Router

Session นี้มีพูดถึงการใช้ Vertex AI ในงาน Marketing ด้วยพวกการเขียน Content ซึ่ง use case ค่อนข้างน่าสนใจมากๆ ครับ ผมก็มาแปะไว้ให้ทุกท่านต่อ อย่างเช่นการวัดผลโมเดล (Evaluation) วัดแบบ Computation-base หรือ Model-based ถ้าใครงง สามารถอ่าน blog ของแทนเจอรีนเรื่องนี้ได้เลยนะครับ

บรรยากาศโดยรวมในงาน Google Cloud Next 25 นั้นเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี Cloud และ AI มาtransform ธุรกิจต่างๆ ครับ ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้เข้าร่วมงานจากหลากหลายอุตสาหกรรม และทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกับศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ Google นำเสนอ ผมรู้สึกได้เลยว่า Google Cloud กำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และ Tangerine ในฐานะพาร์ทเนอร์ก็พร้อมที่จะเติบโตและนำเสนอโซลูชันที่ล้ำสมัยให้กับลูกค้าของเราต่อไปครับ

ปิดท้ายนี้ ผมต้องขอขอบคุณ Google Cloud สำหรับโอกาสอันล้ำค่าที่มอบให้กับ Tangerine ในการเป็น Partner of The Year 2025 และสำหรับประสบการณ์ที่น่าประทับใจในงาน Google Cloud Next 25 ที่ Las Vegas ครับ แล้วพบกันใหม่ในงาน Next ปีหน้าครับ! (April 22–24, 2026)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Contact Form_TH Sources